เดทเบาๆ ที่ Manhattan Fish Market
นานๆทีจะได้มีโอกาสไปเดทกะเค้าสักที มันก็ต้องจัดเต็มกันหน่อยนะคร้าาา ถึงแม้ว่าเมื่อวานจะเพิ่งซัด Zukishi เมื่อวานซืนจะเพิ่งกินอาหารญี่ปุ่น แล้วก็มีแพลนว่าจะไปกินที่โรงแรมในอีกสองวันข้างหน้า นี่ยังไม่รวม SiSZLER ที่ไปกินกันมาเมื่ออาทิตย์ก่อนนะเนี่ย เมื่อเงินเริ่มหาย ร่างกายเริ่มขยาย ก็ไม่ต้องคิดให้มันมากมาย ไปกินอาหารดีๆกันอีกซักมื้อเถอะน้าาา เมื่อหน้ามืดตาลายคล้ายว่าจะหิวข้าว ทำให้เราต้องมานั่งอ้อนแฟน แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และด้วยความใจดีบวกกับความใจกว้างดั่งมหาสมุทรของคุณแฟน ทำให้เราได้มานั่งกันอยู่ในร้านที่เล็งกันมานานมากกกก นามว่า Manhattan Fish Market
"โปรโมชั่นน่าสนใจ แต่ยังไงมื้อนี้หารครึ่งนะ" เสียงทุ้มต่ำ ดังมาเบาๆ พร้อมกับเดินไปข้างในอย่างสง่าผ่าเผย อันที่จริงเป็นเพราะป้ายโปรโมชั่นอันนี้หรอกหรอเนี่ยยยย
เอาล่ะ ร้านนี้มีบรรยากาศที่ค่อนข้างโปร่งและโล่งสบาย แสงแดดธรรมชาติ ผ่านกระจกเข้ามาแบบเต็มที่ แทบไม่ต้องเปิดไฟกันเลยทีเดียว เเเเเอ๊ะ!!! บอกไปรึยังคะว่า ร้านที่มากินนี้ อยู่ Terminal 21 ชั้น บนก่อนถึงชั้นโรงหนังน่ะค่ะ เผื่อใครอยากมา โอเคเข้าเรื่องของเราต่อ วันนี้เราสั่งโปรโมชั้น set 399 ได้ main course สองจาน และ appitizer 2 อย่าง ถือว่าคุ้มสุดๆ ก็เลยสั่ง สเต๊กปลาทอด และปลาย่างมาอย่างละหนึ่ง ส่วน appนั้นสั่งเป็น ยำซีฟู้ด และยำปลาข้าวสาร (หรืออันที่จริงเค้าเรียกว่าสลัดหว่า)
และนอกจากนี้เรายังสั่ง เพนเน่ปลาแซลมอนมาอีกหนึ่งซึ่งแถมเป็นซุปครีมซีฟู้ด
หลังจากกระดกน้ำเปล่า พร้อมกระหนุงกระหนิง (เรื่องรายจ่ายที่ชักจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดมาจากเหล่าอาหารที่มากเกินความจำเป็น) มาได้พอหอมปากหอมคอ ในที่สุดอาหารก็มาขัดจังหวะเราได้อย่างพอเจาะพอดี
จานแรก soup cream seafood
โอ้ววววแม่เจ้าาาาไม่รู้ว่าเป็นเพราะท้องกำลังว่างหรือเพราะเรากำลังมีความสุขจากการมาเดท หรือเพราะอะไรกันแน่ แต่บอกเลย ซุปร้อนๆกับครีมที่ไม่หนักจนเกินไป แต่กลับมีความเข้มข้น ไม่หวาน ไม่เค็มและที่สำคัญไม่มันเลยสักนิด ถึงแม้จะไม่รู้ก็เหอะว่ามันคือซุปอะไร (ก็ซุปซีฟู๊ดไง) ไม่ใช่หมายถึงว่าถ้าไม่บอกก็ไม่รู้น่ะ คือมันไม่เลี่ยนมาก แต่ก็มีรสชาติในแบบของมัน ไม่หนักมาก แต่ก็ไม่เบา ไม่ร้อนมาก(จนลวกปาก) แต่ก็ไม่เย็นจนชืด เราว่าเค้าทำได้ดีอ่ะ รสชาติแบบกลางๆที่ยังมีรสชาติอยู่ (เข้าใจเรามั้ย)
หลังจากเคลิบเคลิ้มกับซุปจานแรกแล้วต่อไปก็เป็นยำ...หรือสลัดนี่แหละ เอาเป็นว่าเราขอเรียกว่ายำสลัดก็แล้วกัน ไม่เอาดีกว่า เรียกว่าสลัดดีกว่า สลัดทะเล ฟังดูทะแม่งๆเนอะ เรียกยำทะเลดีกว่า (เออช่างแม่งเหอะ เรียกอะไรก็เรียกเหอะ!!!) โอเค แล้วยำสลัดทะเลเราก็มาถึงจนได้ จากในภาพเราจะเห็นว่ามีสัตว์ทะเลมากมายหลายชนิดอาทิเช่น ปูอัด ปลาหมึก และหอยเชลล์เป็นต้น (อ้าวว หมดแล้วอ่ะ มีสัตว์สามชนิด) ว่าแต่ปูอัดนี่เป็นสัตว์ทะเลประเภทไหนอ่ะ เออเอาเป็นว่าเรามากินกันเหอะนะ อืม รสชาติเย็นๆ หวานนิดๆ เค็มหน่อยๆ ปลาหมึกก็กรุบกรอบดีอ่ะ ส่วนปูอัดนี่ขอไม่พูดถึงได้มั้ย ก็ปูอัดอ่ะ จะให้พูดยังไงแต่หอยเชลล์นี่สิ เอาะถ้าจะพูดให้ถูกเรียกว่า ลูกหอยเชลล์ดีกว่า มาตอนแรกนึกว่ากระเทียมโทน พุธโธ่ววว แท้จริงคือหอยเชลล์ แต่!!!! ถึงจะเล็กแต่รสชาตินี่ไม่เล็กนะค้าาาา ขอบอกก อร่อยเลยแหละ นิ่มราวกับจะละลายในปากแต่ก่อนจะละลายกลับมีเนื้อให้เคี้ยวเบาๆ มหัศจรรย์ใจมากจ๊ะเจ้าหอยตัวน้อย
และก่อนที่จะเลื่อนช้อนไปกิน ยำสลัดปลาข้าวสาร ก็มีมือใครบางคนมาบีบน้ำเลมอนใส่ลงไปอย่างชุ่มฉ่ำ เฮ้ยยยย!!! ลืมบีบมะนาววว(เลมอนโว้ย) เอาเป็นว่าหลังจากบีบมะนาวแล้วมีความเปรี้ยวบวกความหอมเพิ่มเติมเข้ามาก็แล้วกันนะ หิหิ
ส่วนจานต่อไป ขี้เกียจพิมแล้วอ่ะ เอาเป็นว่ารสชาติน้ำยำแมร่งเหมือนกันเลยอ่ะ แค่เปลี่ยนเป็นปลาข้าวสารอ่ะ แต่ปลาข้าวสารเค้าทอดได้ดีจริงไรจริง มันกรอบจริงไรจริง จริงๆเลยอ่ะ โครตชอบอ่ะขอบอก จริงจริ๊งงง
จานต่อไปเลยแล้วกัน Fish&Chip ถูกเสริ์ฟมาในกะทะเหล็กอันไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ซึ่งรองด้วยกระดาษมันวับ จานนี้ออกแนว American มากมาย นึกว่าจะหนักเลี่ยน แต่เปล่าเล้ยยย มันทั้งกรอบและนุ่มในเวลาเดียวกัน มันเป็นปลาที่ทอดมาได้กำลังดี กรอบนอก นุ่มในอย่างแท้จริง จิ้มกับมายองเนสที่เยาะซอสมะเขือเทศเล็กน้อย แกล้มด้วยเฟรนไฟร์ร้อนๆที่มีผงบาร์บีคิวโรยมาด้วย บอกได้คำเดียววว แมร่งงโครตอร่อยยยย เค้าทอดได้ดีจริงๆ ไม่มีอมน้ำมันสักนิด เจ๋งๆ
ส่วนจานถัดมาคือ grilled fish with garlic rice ปลาดอรี่ย่างกับข้าวผัดกระเทียม ปลาเนื้อขาวย่างมากำลังดี ไม่แห้งเกินไป ไม่ถึงกับชุ่มฉ่ำแต่ว่าเนื้อนิ่มพอใช้ได้ ราดน้ำซอสที่เค้าให้มาด้วยกันแล้วถือว่าโอเคร้ ข้าวผัดก็ผัดแบบร่วนๆหน่อย ไม่แฉะ กินคู่กันแล้วไม่รู้สึกว่ามากเกินพอดี
อย่างสุดท้ายแล้วค่า กำลังจะต้องกลับบ้านแล้วววว นั่นก็คือ penne salmon
กินแล้วขอบอกว่า สุดยอดดดดด เค็มมากกกกก แบบว่าพี่คะ พี่ทำเกลือหกใช่มั้ยคะ แต่ว่านอกเหนือจากนั้นแล้วทุกอย่าง perfect มากค่ะ เส้นก็ต้มมากำลังดี ไม่แข็ง ไม่แฉะจนเกินไป รสชาติ(ถ้าตัดเค็มออกอีกนิ๊ดดดดนึง)จะถือว่าอร่อยที่สุดเลยค่ะ เราชอบนะ แซลมอนทำได้ดี ไม่แข็งกระด้าง เนื้อก็นุ่ม ครีมก็ไม่เลี่ยนเกินไป
เราว่ารสชาติอาหารของที่นี่เน้นไปที่รสค่อนข้างกลางๆ ไม่จัด แต่ก็ไม่อ่อน เป็นสุนทรียชาติแห่งอาหารที่ทำให้เรารื่นรมณ์ แบบไม่ต้องมาก แต่ก็ไม่น้อยเกินไป ทุกอย่างมันมีความพอดีในตัวของมันเอง ถึงแม้ว่ารสชาติในแต่ละอย่างของแต่ละจานจะไม่ได้หวือหวา หรือว่าโดดเด่น แต่เมื่ออยู่ในจานเดียวกันแล้ว กลับรู้สึกว่าทุกอย่างมันลงตัวในแบบของมัน รสชาติเบาๆ ที่คลอเคลียต่อมรับรสให้รู้สึกว่าอาหารมื้อที่แสนจะพิเศษนั้นพิเศษจริงๆ แล้วเราก็จ่ายเงินกันเบาๆ เพียงคนละ 300นิดๆเท่านั้น ความอร่อยไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไปสินะ อืมๆ
ความสะอาด ให้เต็มร้อย
ความอร่อย ให้เต็มสิบ
และถ้าถามว่ามาอีกมั้ย ก็ตอบเค้าไปเบาๆว่า แล้วเจอกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น