banyan tree @ Baiyun Room
ณ แหล่งธุรกิจ ใจกลางเมือง ที่สาทรใต้ เหนือจากพื้นดิน 59+1ชั้น (ขึ้นลิฟท์ไปชั้นที่59แล้วเดินต่อด้วยบันไดอีกชั้นนึง) ภายในโรงแรมหรู และมืดสลัว ด้วยเหล่าพืชพรรณป่าไม้นานาชนิด ตามชื่อโรงแรม Banyan Tree นั้น ตอนนี้เรามาอยู่ภายในตึกสูง ที่เบื้องหน้ามองไปเห็นเพียงแสงไฟ ดวงน้อยๆ นับร้อยนับพัน จากบ้านเรือน โรงแรม และไฟหน้ารถที่จอดอยู่กับที่สลับหยุดนิ่ง เป็นทางยาว และคดเคี้ยวราวกับมังกรไฟสีส้ม พวกเค้าเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ ชั้นนั้นได้แต่สงสัย แต่ไม่อยากรู้ รับรู้แต่เพียงว่า ชั้นกำลังจะมานั่งกิน Dinner สุดหรูในห้องอาหารของโรงแรม ที่มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศ และเสียงคุยกันจอแจเพียงแผ่วเบา กับบรรยากาศเงียบๆ สบายๆ วันนี้ชั้นลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้า กินข้าวเที่ยงเพียงเล็กน้อย แล้วก็เดินย่อยมาตลอดวัน เพียงเพื่อเฝ้ารอ มื้ออาหารเลิศรสที่จะทำให้ชั้นหลับฝันดีในตอนกลางคืน
เรื่องของเรื่องคือ ชั้นได้ gift voucher มาจากที่บ้าน ให้มากิน diiner ฟรี นอกจากนี้ยังได้ afternoon tea (ซึ่งฟรีอีกเช่นกัน) แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนก็เพิ่งมากิน Buffet (ก็ฟรีอีกแล้ว) ไว้จะมาเขียนอีก ทีหลัง
หลังจากยื่นบัตรgift voucher ให้พนักงานเป็นอย่างแรก(ด้วยกลัวว่าจะไม่ได้กินฟรี)แล้วเค้าก็จะพาเรามานั่งที่โต๊ะ พร้อมกับบอกรายการอาหาร ว่าเราจะได้กินอะไรบ้างในวันนี้ สามารถเปลี่ยนได้ถ้าไม่ชอบหรือว่าแพ้อะไรก็แจ้งเลย
ซึ่งของฟรีไม่รวมเครื่องดื่ม เราเลยสั่งน้ำเปล่า กะเอาไว้ว่าน่าจะถูกสุด และคนที่มาด้วยกันเค้าสั่ง เก๊กฮวยเย็นแก้วนึง
เอาล่ะ อาหารจานแรกถูกยกมาเสริ์ฟแล้ววว
จานแรก ยำเป๋าฮื้อเส้นแมงกะพรุนน้ำมันงากับผลไม้
เป็นสลัดเรียกน้ำย่อย มาแบบเย็นๆสร้างอารมณ์อยากอาหารได้เป็นอย่างดี ความกรุบกรับของแมงกะพรุนเส้นนั้นคลุกเคล้าอย่างชุ่มฉ่ำกับน้ำยำ ที่หวานกำลังดี เค็มกำลังโดน แล้วก็หมี่กรอบๆ นั้นเข้าขากับรสชาติได้ดีมากๆ มีรสของผลไม้ (น่าจะเป็นแคนตาลูปเส้นนะ(มั้ง)) พอให้รู้สึกสดชื่น
จานที่สอง ซุปข้าวโพดเนื้อปู
เค้าว่าหยินหยางมักสร้างความสมดุล ก็คงเหมือนกับพอเรียกน้ำย่อยด้วยสลัดเย็นๆ ก็มาอุ่นเครื่องกันต่อด้วยซุปร้อนๆ ละมั้ง เป็นซุปที่รสข้าวโพดนั้นชัดเจนมาก เข้มข้น แต่ไม่เค็ม ไม่หนักเหมือนซุปครีมเห็ด แต่ก็ไม่ใช่น้ำใสแบบก๋วยเตี๋ยว ความเข้นข้นกำลังดี ก่อนจะกินก็เหยาะ ซีอิวนิด น้ำส้มหน่อย อร่อยเลยเชื่อเรา กินกับเนื้อปูแล้วมันเข้ากั้นนนเข้ากัน
จานที่สาม กุ้งแม่น้ำเจี๋ยนซอสเอ็กซ์โอ
อยากกินมานานแล้ว ไอซอสเอ็กซ์โอเนี่ย ที่มักจะถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ในการ์ตูนเรื่องเชฟกะทะเหล็ก แต่วันนี้มันมาอยู่ในจานกระเบื้องแทน เนื้อกุ้งแม่น้ำทั้งขาว ทั้งอวบ เนื้อก็แน่นน่าดู
เวลากินนะ ให้กินกับมันกุ้งเยิ้มๆๆ ที่อยู่หัวมัน
เนื้อกุ้งโดนใจ แต่ซอสเอ็กซ์โอมันไม่ค่อยได้ใจเท่าไหร่อ่ะ ไม่ค่อยมีรสชาติ ไม่เหมือนที่จินตนาการสักนิด รสสัมผัสนั้นใช่ แต่รสชาติมันไม่ใช่อ่ะ มีแต่ความเค็ม ของซอส กับความมันของมันกุ้ง และก็ความจืดของเนื้อกุ้ง แต่ถ้าตัดลิ้นออกไป มันจะได้ใจมาก เพราะว่าเนื้อกุ้งมันแน่น ซอสมันขลุกขลิก ไง
จานที่สี่ ข้าวผัดกุ้งคะน้าหมูแดง
ข้าวผัดจานน้อยๆ กับหมูแดงขนาดเล็กจิ๋ว และผักคะน้าขนาดน่าเอ็นดู คลุกเคล้ารวมกัน ในจานใบจ้อย รสชาติคล้ายข้าวผัดปูที่ผัดรสชาติแบบจีนๆหน่อย แต่รู้สึกเหมือนจะขาดอะไรไปนะ อาจจะเป็นเพราะไม่มีไชโป๊ว เอ๊ะ อ่อนเค็มไปด้วยอ่ะ หรือว่าไม่มีพริกไทยนะ ไม่สิ กลิ่นฉุนๆแบบจีนๆก็ไม่มีด้วยอ่ะ อ้าววนี่มันขาดไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ยยยยย
จานที่ห้า ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว
ปลาเนื้อนุ่มๆ ที่ทั้งขาวทั้งอวบ เนื้อก็นุ้มมมนุ่ม นอนแช่ซอสมาอย่าง่อิ่มเอิบ รสเค็มไปนิดนึง แต่เนื้อปลานิ่มมาก
ภาพรวมๆ
ตบท้ายเบาๆด้วยของหวานเย็นๆ อย่างสาคูแคนตาลูป จริงๆแล้วอยากจะเรียกว่า น้ำแคนตาลูปปั่นใส่สาคูมากกว่า ก็หวานๆ มันๆดี มีสาคูให้เคี้ยวเพลินๆ (จริงๆไม่ได้เคี้ยวหรอก ไหลลงคอหมด) เป็นของหวานตบท้ายเบาๆ ชวนสดชื่นดีเหมือนกันนะ
และแล้วเรื่องราวก็เดินทางมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายของเมนู เมื่อเหล่าอาหารต่างก็ถูกทะยอยยกออกมาเสริ์ฟจานแล้ว จานเล่า ไม่มีปาร์ตี้ไหนไม่เลิกลา เมื่อมากินของเค้าแล้วก็ต้องเช็คบิล แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน มื้อนี้เรากินไปทั้งหมด 264 บาทถ้วน ซึ่งเราก็ยื่นบัตรสมาชิกเพื่อจะได้ลดอีก 25 %(นอกจากจะใช้บัตรกินฟรีแล้วยังจะเอาส่วนลดอีกนะ นี่กะจะไม่ให้เค้าได้อะไรกันเลยใช่มั้ยเนี่ย เสียงในจิตใจดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว) สรุปแล้ววันนี้เราเสีย เงินเพียงค่าน้ำเปล่า 150บาท(ไม่ใช่น้ำแร่ธรรมชาติจากหิมาลัยนะคะ อย่าเข้าใจผิด น้ำเปล่าธรรมดาที่สามารถซื้อได้ที่เซเว่นใกล้บ้านท่าน ในราคา 7บาทนั่นล่ะค่า) และเก๊กฮวย 80 บาท (รู้งี้สั่งเก๊กฮวยดีกว่า ถูกกว่าน้ำเปล่าอีก)
สรุปเลยล่ะกันเนอะ จะได้กลับบ้านซะที ฝนตกหนักแล้วด้วย
ความอร่อย ก็อร่อยนะ เป็นบางอย่าง ไม่มีที่ถึงกับว่าไม่อร่อยเลย
ความคุ้มค่า คุ้มสิคะ ทั้งหมดนี่เสียแค่ค่าเครื่องดื่มเอง ไม่คุ้มที่ไอน้ำเปล่านี่แหละ
ความสะอาด เต็มร้อย ของร้อยของร้อย
การบริการ โครตจะเต็มร้อยของร้อยของร้อย
มาอีกมั้ย แน่นอน เอา gift voucher ให้ชั้นอีกสิ !!!
เรื่องของเรื่องคือ ชั้นได้ gift voucher มาจากที่บ้าน ให้มากิน diiner ฟรี นอกจากนี้ยังได้ afternoon tea (ซึ่งฟรีอีกเช่นกัน) แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนก็เพิ่งมากิน Buffet (ก็ฟรีอีกแล้ว) ไว้จะมาเขียนอีก ทีหลัง
หลังจากยื่นบัตรgift voucher ให้พนักงานเป็นอย่างแรก(ด้วยกลัวว่าจะไม่ได้กินฟรี)แล้วเค้าก็จะพาเรามานั่งที่โต๊ะ พร้อมกับบอกรายการอาหาร ว่าเราจะได้กินอะไรบ้างในวันนี้ สามารถเปลี่ยนได้ถ้าไม่ชอบหรือว่าแพ้อะไรก็แจ้งเลย
ซึ่งของฟรีไม่รวมเครื่องดื่ม เราเลยสั่งน้ำเปล่า กะเอาไว้ว่าน่าจะถูกสุด และคนที่มาด้วยกันเค้าสั่ง เก๊กฮวยเย็นแก้วนึง
เอาล่ะ อาหารจานแรกถูกยกมาเสริ์ฟแล้ววว
จานแรก ยำเป๋าฮื้อเส้นแมงกะพรุนน้ำมันงากับผลไม้
เป็นสลัดเรียกน้ำย่อย มาแบบเย็นๆสร้างอารมณ์อยากอาหารได้เป็นอย่างดี ความกรุบกรับของแมงกะพรุนเส้นนั้นคลุกเคล้าอย่างชุ่มฉ่ำกับน้ำยำ ที่หวานกำลังดี เค็มกำลังโดน แล้วก็หมี่กรอบๆ นั้นเข้าขากับรสชาติได้ดีมากๆ มีรสของผลไม้ (น่าจะเป็นแคนตาลูปเส้นนะ(มั้ง)) พอให้รู้สึกสดชื่น
จานที่สอง ซุปข้าวโพดเนื้อปู
เค้าว่าหยินหยางมักสร้างความสมดุล ก็คงเหมือนกับพอเรียกน้ำย่อยด้วยสลัดเย็นๆ ก็มาอุ่นเครื่องกันต่อด้วยซุปร้อนๆ ละมั้ง เป็นซุปที่รสข้าวโพดนั้นชัดเจนมาก เข้มข้น แต่ไม่เค็ม ไม่หนักเหมือนซุปครีมเห็ด แต่ก็ไม่ใช่น้ำใสแบบก๋วยเตี๋ยว ความเข้นข้นกำลังดี ก่อนจะกินก็เหยาะ ซีอิวนิด น้ำส้มหน่อย อร่อยเลยเชื่อเรา กินกับเนื้อปูแล้วมันเข้ากั้นนนเข้ากัน
จานที่สาม กุ้งแม่น้ำเจี๋ยนซอสเอ็กซ์โอ
อยากกินมานานแล้ว ไอซอสเอ็กซ์โอเนี่ย ที่มักจะถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ในการ์ตูนเรื่องเชฟกะทะเหล็ก แต่วันนี้มันมาอยู่ในจานกระเบื้องแทน เนื้อกุ้งแม่น้ำทั้งขาว ทั้งอวบ เนื้อก็แน่นน่าดู
เนื้อกุ้งโดนใจ แต่ซอสเอ็กซ์โอมันไม่ค่อยได้ใจเท่าไหร่อ่ะ ไม่ค่อยมีรสชาติ ไม่เหมือนที่จินตนาการสักนิด รสสัมผัสนั้นใช่ แต่รสชาติมันไม่ใช่อ่ะ มีแต่ความเค็ม ของซอส กับความมันของมันกุ้ง และก็ความจืดของเนื้อกุ้ง แต่ถ้าตัดลิ้นออกไป มันจะได้ใจมาก เพราะว่าเนื้อกุ้งมันแน่น ซอสมันขลุกขลิก ไง
จานที่สี่ ข้าวผัดกุ้งคะน้าหมูแดง
ข้าวผัดจานน้อยๆ กับหมูแดงขนาดเล็กจิ๋ว และผักคะน้าขนาดน่าเอ็นดู คลุกเคล้ารวมกัน ในจานใบจ้อย รสชาติคล้ายข้าวผัดปูที่ผัดรสชาติแบบจีนๆหน่อย แต่รู้สึกเหมือนจะขาดอะไรไปนะ อาจจะเป็นเพราะไม่มีไชโป๊ว เอ๊ะ อ่อนเค็มไปด้วยอ่ะ หรือว่าไม่มีพริกไทยนะ ไม่สิ กลิ่นฉุนๆแบบจีนๆก็ไม่มีด้วยอ่ะ อ้าววนี่มันขาดไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ยยยยย
ปลาเนื้อนุ่มๆ ที่ทั้งขาวทั้งอวบ เนื้อก็นุ้มมมนุ่ม นอนแช่ซอสมาอย่าง่อิ่มเอิบ รสเค็มไปนิดนึง แต่เนื้อปลานิ่มมาก
และแล้วเรื่องราวก็เดินทางมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายของเมนู เมื่อเหล่าอาหารต่างก็ถูกทะยอยยกออกมาเสริ์ฟจานแล้ว จานเล่า ไม่มีปาร์ตี้ไหนไม่เลิกลา เมื่อมากินของเค้าแล้วก็ต้องเช็คบิล แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน มื้อนี้เรากินไปทั้งหมด 264 บาทถ้วน ซึ่งเราก็ยื่นบัตรสมาชิกเพื่อจะได้ลดอีก 25 %(นอกจากจะใช้บัตรกินฟรีแล้วยังจะเอาส่วนลดอีกนะ นี่กะจะไม่ให้เค้าได้อะไรกันเลยใช่มั้ยเนี่ย เสียงในจิตใจดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว) สรุปแล้ววันนี้เราเสีย เงินเพียงค่าน้ำเปล่า 150บาท(ไม่ใช่น้ำแร่ธรรมชาติจากหิมาลัยนะคะ อย่าเข้าใจผิด น้ำเปล่าธรรมดาที่สามารถซื้อได้ที่เซเว่นใกล้บ้านท่าน ในราคา 7บาทนั่นล่ะค่า) และเก๊กฮวย 80 บาท (รู้งี้สั่งเก๊กฮวยดีกว่า ถูกกว่าน้ำเปล่าอีก)
สรุปเลยล่ะกันเนอะ จะได้กลับบ้านซะที ฝนตกหนักแล้วด้วย
ความอร่อย ก็อร่อยนะ เป็นบางอย่าง ไม่มีที่ถึงกับว่าไม่อร่อยเลย
ความคุ้มค่า คุ้มสิคะ ทั้งหมดนี่เสียแค่ค่าเครื่องดื่มเอง ไม่คุ้มที่ไอน้ำเปล่านี่แหละ
ความสะอาด เต็มร้อย ของร้อยของร้อย
การบริการ โครตจะเต็มร้อยของร้อยของร้อย
มาอีกมั้ย แน่นอน เอา gift voucher ให้ชั้นอีกสิ !!!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น